ในสภาวะสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบันนั้น ทำให้หลายคนต้องอยู่บ้าน work from home หรือคนใช้รถเฉพาะวันหยุดก็ไม่สามารถขับรถไปเที่ยวไหนได้ ไหนจะ พ.ร.ก. ห้ามออกนอกตามเวลาที่กำหนดอีก รถจึงถูกจอดทิ้งไว้ซะเป็นส่วนมาก ดังนั้นเราจึงควรมีวิธีดูแลรถอย่างไรบ้าง ให้รถยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิม ไม่ต้องพาไปเข้าอู่ซ่อมรถ ซมโปะขอแนะนำให้ ดังนี้
สถานที่จอด
อย่างแรกเลยเริ่มจากสถานที่จอดรถ หากบ้านใครมีที่จอดรถ หรือคอนโดมีที่จอดรถใต้ตึกก็สบายใจหายห่วงได้ในระดับนึงไปก่อนแล้ว แต่หากใครไม่มีควรเลี่ยงสถานที่เหล่านี้
- เลี่ยงจอดกลางแดด ด้วยความแรงของแดดเมืองไทยนั้น พร้อมจะทำลายสีรถให้ซีดเร็ว และกระทบต่ออุปกรณ์บางอย่างที่เป็นยางให้เสื่อมได้เร็วขึ้น เช่น ยางปัดน้ำฝน ยางสายไฟ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างกล้องติดรถ
- เลี่ยงจอดใต้ต้นไม้ นอกจากยางไม้แล้ว ขี้นกก็เป็นตัวร้ายอันดับต้นๆ ที่ขัดออกยากมาก หากขัดออกไม่ดีทำให้รถเป็นรอยได้เลย รวมถึงเสี่ยงต่อ กิ่งไม้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งต้นไม้ล้มทับรถ ซึ่งส่วนมากจะจอดใต้ต้นไม้เพราะหลบแดดกัน แต่บอกได้เลยว่าหากเจอเหตุไม่คาดฝันล่ะก็ไม่คุ้มแน่ๆ
- เลี่ยงจอดในพงหญ้า เนื่องจากเสี่ยงพวกสัตว์ไม่พึงประสงค์เข้ามาอยู่อาศัย มด หนู หรือแม้กระทั่งงู หรืออาจเจอตัวแปลกๆ กว่าที่ว่ามาก็เป็นได้
- หากจำเป็นต้องจอดข้างทาง หรือริมถนน ควรพับกระจกข้างเก็บให้เรียบร้อย ไม่งั้นเสี่ยงต่อโดนเฉี่ยวและหาคู่กรณีได้ยากมาก และตรวจเช็คจุดจอดบริเวณยางล้อ ไม่เบียดเนินหรือหลุมทำให้ยางเบี้ยวส่งผลตามหลังมาได้
- การจอดรถนอกบ้านหรือข้างทาง ก็ทำให้เสี่ยงรถสูญหายได้แน่นอน ดังนั้นทางที่ดีควรทำประกันภัยรถคุ้มครองเอาไว้ก่อนเพราะเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ใช้รถน้อยจอดทิ้งแบบนี้ต้อง ซมโปะ MotorJoy2+ เบี้ยคุ้มค่า คุ้มครองครอบคลุมรถหาย ไม่ต้องตรวจสภาพรถ แถมเช็คเบี้ยพร้อมซื้อออนไลน์ได้เลย
การดูแลภายนอกรถ
ต่อจากสถานที่จอดรถแล้ว ก็เริ่มด้วยการดูแลภายนอกตัวรถ ดังนี้
การดูแลสีรถ และรอยขีดข่วนต่างๆ
- ใช้ผ้าคลุมรถ ช่วยป้องกันขี้นก และรอยขีดข่วนจากภายนอกได้
- ล้างรถบ้าง หากจอดที่โล่งที่มีฝุ่นสะสมตลอด หรือล้างคราบสกปรกแต่เดิมออก การล้างรถควรใช้น้ำฉีดล้างฝุ่นและโคลนออกก่อนทีจะใช้ผ้าเช็ด เพราะการเช็ดแห้งจะลากพวกเศษฝุ่นพวกนี้ทำให้รถเป็นรอย รวมถึงห้ามใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นเช่นกัน ด้วยเหตุผลเดียวกันที่ไม้ขนไก่จะสะสมเศษฝุ่นเอาไว้ ผ้าที่ใช้ล้างรถควรเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าชามัวร์ (ผ้าชามัวร์ดูดซับน้ำได้ดีกว่า) สามารถหาซื้อได้จากออนไลน์มีมากมายเกี่ยวกับขายอุปกรณ์ดูแลรถ และลงแว็กซ์เคลือบเพิ่มก็ได้
ยางรถ
ลมในยางเมื่อจอดรถไว้นานๆ แม้ไม่ได้ขับก็อ่อนลงได้เรื่อยๆ เป็นเพราะน้ำหนักรถที่กดทับไว้ ทำให้ลมค่อยๆ ออกไปทีละนิด หากจะต้องจอดทิ้งไว้นานๆ แล้ว ควรแวะเติมลมมากกว่าเดิมเล็กน้อยเผื่อไว้ เติมลมยางให้ได้ตามค่าที่ผู้ผลิตรถกำหนดไว้ โดยดูค่าที่เหมาะสมได้จากประตูข้างคนขับทางขวา หรือในคู่มือใช้รถ การเติมลมไว้ยังช่วยให้คงสภาพรูปทรงยางไม่ให้เสียรูปโครง และพร้อมใช้งานได้อยู่ตลอด
เราสามารถเช็คลมยางได้ด้วยอุปกรณ์วัดลมยางซึ่งมีราคาไม่กี่ร้อยจากร้านออนไลน์ ซึ่งสามารถปล่อยลมยางออกก็ได้ กรณีเผลอเติมลมมาเยอะเกินกำหนด
ภายในรถ
เมื่อเช็ค ดูแลภายนอกรถแล้ว ก็ต้องมาดูแลภายในรถกันต่อ
เบาะรถ
เบาะหนัง
- ไม่ควรจอดรถกลางแจ้งตากแดดไว้ เพราะส่งผลให้หนังกรอบและแตกลาย แตกปริ ได้เร็วขึ้น
- เช็ดฝุ่นบ้าง จอดรถทิ้งไว้ ฝุ่นก็ยังเข้ามาเกาะได้ ดังนั้นควรใช้ผ้านุ่มบิดน้ำพอหมาดๆ เช็ดบ้าง และเปิดประตูตากลมให้แห้งไม่ปล่อยให้ชื้น หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นก็ได้
เบาะผ้า
- ดูดฝุ่น ด้วยการตบเบาะเบาๆ ให้ทั่วเพื่อเรียกฝุ่นขึ้นมา จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่น จะแบบบ้านหรือพกพา ไล่ดูให้ทั่ว
- ใช้สเปรย์โฟม สำหรับทำความสะอาดเบาะผ้า เพื่อกำจัดเชื้อโรค วิธีใช้เมื่อฉีดโฟมแล้วรอให้โฟมยุบก่อน แล้วค่อยใช้ผ้าบิดน้ำพอหมาดๆ เช็ดซ้ำ
ทั้งเบาะหนังและเบาะผ้า ควรเช็คตามร่องต่างๆ ให้ดี เช็คไม่ให้มีเศษอาหารหรือขนมตกแอบอยู่ เพราะอาจเรียกมดหรือแมลงให้เข้ามาได้
ฉีดยาฆ่าเชื้อ โควิด-19 (covid-19)
ศูนย์บริการรถยนต์บางแห่ง มีบริการพ่นสเปรย์ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อภายในห้องโดยสารให้ ลองสอบถามทางศูนย์ที่ตัวเองสะดวกไปดูก่อน หรืออู่ซ่อมรถที่ใช้ประจำว่ามีให้บริการเรื่องนี้หรือไม่
กล้องหน้ารถ
หากใครจอดรถกลางแดดไว้ ควรถอดเก็บไป ไม่ควรเสียบคาไว้ในรถ เพื่อเลี่ยงการเสื่อมและระเบิดจากแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเคยมีข่าวเหตุการณ์แบบนี้ออกมา รวมไปถึงต้องอย่าลืมเอาพวกแบตฯ มือถือสำรอง, ไฟแช็คเก็บไปด้วย ไม่เก็บไว้ในรถเด็ดขาด
ภายในห้องเครื่องยนต์
สุดท้ายเป็นส่วนที่ค่อนข้างสำคัญที่สุด ในเบื้องต้นมีแค่ไม่กี่จุด หลายคนอาจมองข้ามและไม่ลองฝึกหัดเช็คสิ่งเหล่านี้ให้เป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรเช็คดูแลมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่งั้นต้องพาไปเข้าอู่ซ่อมรถจะเสียทั้งเงินทั้งเวลา
เช็คของเหลว น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องเป็นของสำคัญอันดับต้นๆ ในการดูแลรถให้ใช้งานได้นานๆ และไม่ขัดข้อง ดังนั้นหากต้องจอดทิ้งไว้นานๆ แล้วจะกลับมาใช้ก็ควรมีเช็กอยู่เป็นระยะๆ บ้าง สำหรับรถที่ใช้งานมานานแล้ว วิธีเช็กก็ตรวจสอบจากก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง ดึงก้านขึ้นมาแล้วเช็ดให้สะอาดด้วยผ้าหรือทิชชู่แบบไม่มีขุย จากนั้นเสียบกลับเข้าไปให้สุดแล้วดึงออกมาดูคราบน้ำมันที่ติดปลายก้าน ควรอยู่ในระหว่างกลางช่วง L-F อยู่ค่อนไปทาง F ได้ ถ้าต่ำกว่า L ควรเติมน้ำมันเครื่องเข้าไป หรือเข้าศูนย์ฯ อู่ซ่อมรถ
หากจะไม่ได้ใช้รถนานๆ เป็นเดือนเลยจริงๆ และใกล้ได้เข้าศูนย์เช็คระยะตามกำหนด ก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว้ก่อน
รักษาแบตเตอรี่และเครื่องยนต์
- ด้วยการแวะมาสตาร์ทรถเพื่อวอร์มเครื่องทิ้งไว้สัก 10 นาที สัปดาห์ละครั้งถ้าสะดวก หรือสองสัปดาห์ครั้ง
- เช็คน้ํากลั่น แบตเตอรี่ ตรวจง่ายๆ ด้วยการไขเดือยแต่ละรู เมื่อไขออกมาแล้วดูว่ามีน้ำติดที่แต่ละเดือยหรือไม่ ถ้าแห้งก็เติมในช่องนั้นๆ แต่ถ้าเป็นแบตเตอรีแบบใหม่ จะเช็คได้ง่าย เพราะจะมีสัญลักษณ์ตาแมว หรือ Indicator Sign อยู่ตรงแบตเตอรี่เลย ซึ่งจะมีสัญลักษณ์บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าควรเติมน้ำกลั่นหรือไม่รวมไปถึงบอกระดับไฟด้วย
- ถ้าเป็นไปได้มีพื้นที่ขับรถภายในหมู่บ้านหรือใกล้ๆ ก็ควรขับเพื่อให้เครื่องยนต์ได้รับการหล่อลื่นไม่ติดขัดหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ
ปกป้องคุ้มครองรถทั้งคันด้วยประกันรถยนต์
ประกันภัยรถที่ควรมีไว้คุ้มครอง ไม่ค่อยใช้รถ นานๆ ใช้ทีแบบนี้ ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ซมโปะ MotorJoy2+ ทำไมถึงเหมาะกับสถานการณ์แบบนี้? เพราะเป็นประกันภัยรถที่ประหยัด แต่คุ้มครองใกล้เคียงชั้น 1 คุ้มครองรถหาย หรือไฟไหม้ จอดรถไว้ไม่ค่อยใช้แบบนี้จะเสียค่าเบี้ยแพงทำไม และหากต้องใช้งานบ้างจริงๆ ก็ยังคุ้มครองค่าซ่อมแซมตัวรถหากเกิดอุบัติเหตุรถชนรถได้อีก
Copyright © 2020 Sompo Insurance (Thailand) Public Company Limited. All Rights Reserved.