ขับรถต้องรู้! วิธีรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ขับรถต้องรู้! วิธีรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

แม้ทุกวันนี้รถยนต์จะมีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับรถมากยิ่งขึ้นก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุจะไม่เกิดขึ้นกับคุณ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการประกันความเสี่ยงด้วยประกันภัยรถยนต์ จะเพิ่มความอุ่นใจให้กับคุณในทุกการเดินทาง ซึ่งในวันนี้เรามีวิธีรับมือ 6 เหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้เวลาขับรถมาฝากกัน

 

1. กระจกบังลมหน้าแตก

กระจกบังลมหน้าแตก ถือเป็นเหตุที่เกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิดและสร้างความตกใจให้กับผู้ขับรถได้มาก สาเหตุที่ทำให้กระจกหน้าแตกอาจเกิดได้จากทั้ง การแตกจากอายุการใช้งาน หรือเกิดจากเศษหินหรือวัตถุของแข็งอื่นๆ ที่กระเด็นมาโดนกระจกอย่างแรงจนทำให้แตกหรือร้าวได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากเศษหินที่ถูกรถคันใหญ่เหยียบแล้วกระเด็นใส่

ดังนั้นผู้ขับรถจึงควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อป้องกันเศษหินหรือของแข็งกระเด็นมาโดนกระจกหน้ารถได้

แต่ถ้าหากกระจกเกิดแตกขึ้นมาจริงๆ วิธีรับมือเมื่อกระจกหน้าแตกนั้น สิ่งแรกเลยคือให้ตั้งสติอย่าตกใจแล้วค่อยๆ ลดความเร็ว แล้วค่อยๆ นำรถเข้าจอดข้างทางในจุดที่ปลอดภัย จากนั้นติดต่อขอความช่วยเหลือกับบริษัทที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ หรือ  191-เหตุด่วน , 1193-ตำรวจทางหลวง หรือใครมีประกันรถของซมโปะ ประกันภัยไว้ ติดต่อแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชม. 02-118-7400

 

2. เครื่องยนต์ขัดข้อง

รถเสียเครื่องยนต์ขัดข้องนับเป็นเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่จะมาจากการขาดการดูแลรักษาเอาใจใส่ ไม่เปลี่ยนอะไหล่หรือเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะเวลาการใช้งาน ดังนั้นผู้ขับรถควรนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์ให้บริการภายในระยะเวลาที่กำหนด หมั่นดูแลรักษารถและตรวจเช็คความผิดปกติเบื้องต้นเช่น ตรวจดูลักษณะและปริมาณของเหลวในห้องเครื่องต่างๆ ว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ รวมถึงพวกสายไฟและท่อทางเดินต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนออกเดินทาง

หากรถคุณเครื่องยนต์เกิดขัดข้องในขณะขับรถให้เปิดไฟฉุกเฉิน จากนั้นให้ค่อยๆ เหยียบเบรกเป็นระยะๆ และเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแสดงเป็นสัญญาณบอกให้กับผู้ร่วมทางบนท้องถนนท่านอื่นได้ทราบว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา หลังจากนั้นให้พยายามนำรถจอดเทียบข้างทางเพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยบริการฉุกเฉินกับบริษัทที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ หรือ 191-เหตุด่วน , 1193-ตำรวจทางหลวง หรือใครมีประกันรถของซมโปะ ประกันภัยไว้ ติดต่อแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชม. 02-118-7400

 

มาถึงตรงนี้ใครยังไม่รู้จัก ซมโปะ ประกันภัย ลองคลิกอ่านที่นี่ ว่าทำไมถึงเป็นประกันภัยชั้นนำของญี่ปุ่น

 

3. คันเร่งค้าง

คันเร่งค้างแม้เป็นเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนักแต่ก็ถือว่ามีความอันตรายสูงเลยทีเดียวหากผู้ขับรถไม่สามารถควบคุมรถได้ถูกวิธี อาจรถชนได้ ซึ่งวิธีรับมือเมื่อเกิดคันเร่งค้างนั้น ก่อนอื่นต้องตั้งสติอย่าตกใจ แล้วค่อยๆ แตะเบรกช่วยในการชะลอความเร็วโดยไม่ต้องแตะคลัทช์ ให้ใช้คลัทช์เฉพาะในการเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น (ในกรณีรถเกียร์ธรรมดา) เพื่อช่วยในการลดความเร็วลงเมื่อจำเป็น และประคองรถมาเรื่อยๆ โดยค่อยๆ ใช้เบรกหลายๆ ครั้ง เมื่อรถยนต์ลดความเร็วต่ำจนอยู่ในระดับที่ปลอดภัยแล้ว ให้ใช้ปลายเท้าขวาสอดเข้าใต้คันเร่งเพื่อยัดขึ้น ถ้าคันเร่งไม่ขึ้นก็ให้พารถยนต์เข้าข้างทางด้วยการดับเครื่องยนต์ แต่รถจะต้องวิ่งที่ความเร็วต่ำ (ข้อควรระวังคือ ควรปิดสวิทซ์มาที่ตำแหน่ง off เท่านั้น อย่าเลยไปถึง lock เพราะอาจทำให้พวงมาลัยล็อคและไม่สามารถบังคับรถได้) จากนั้นค่อยๆ ใช้เบรกมือเพื่อช่วยชะลอความเร็วจนถึงหยุดสนิทจอดเทียบข้างทางได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะติดต่อขอความช่วยเหลือกับบริษัทที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ หรือ 191-เหตุด่วน , 1193-ตำรวจทางหลวง หรือใครมีประกันรถของซมโปะ ประกันภัยไว้ ติดต่อแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชม. 02-118-7400

 

4. เบรกแตก

เบรกแตกหรือระบบเบรกขัดข้องนับเป็นอีกเหตุฉุกเฉินที่มีความอันตรายสูง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ขับรถใช้ความเร็วสูง ดังนั้นผู้ขับรถควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมในขณะขับรถและหมั่นตรวจสอบระบบเบรกว่ายังทำงานได้เป็นปกติทุกครั้งก่อนออกเดินทาง ไม่งั้นมีโอกาสรถชนได้สูง

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุการณ์เบรกขัดข้องขึ้นมาจริงๆ สิ่งแรงให้ตั้งสติแล้วค่อยๆ บีบแตรเป็นระยะเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้สัญจรหรือผู้ขับรถท่านอื่นทราบว่ารถคุณกำลังมีปัญหา จากนั้นค่อยๆ ลดความเร็วด้วยการยกผ่อนคันเร่ง จากนั้นให้ใช้แรงเสียดทานของเครื่อง หรือ engine brake เป็นตัวช่วยลดความเร็วจากการหน่วงช่วยให้ลดความเร็วอย่างกะทันหัน ด้วยการเหยียบคลัทช์แล้วค่อยๆ ลดเกียร์ต่ำลงสำหรับรถเกียร์ธรรมดา ส่วนในระบบเกียร์อัตโนมัติให้ใช้วิธีกดปุ่ม Overdrive on หรือใช้วิธีสับตำแหน่งเกียร์ จาก D มาเป็น 3 (แต่ห้ามเปลี่ยนมาเป็น L โดยเด็ดขาดไม่เช่นนั้นอาจทำให้เครื่องยนต์พังได้) ให้ค่อยๆ นำรถจอดเทียบข้างทางเพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยบริการฉุกเฉินกับบริษัทที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ หรือ 191-เหตุด่วน , 1193-ตำรวจทางหลวง หรือใครมีประกันรถของซมโปะ ประกันภัยไว้ ติดต่อแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชม. 02-118-7400

 

5. ยางระเบิด

ยางแตกหรือยางระเบิดถือเป็นอีกหนึ่งเหตุฉุกเฉินที่มีความอันตรายมาก ที่อาจทำให้รถเสียการทรงตัวจนไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ ดังนั้นเมื่อรถคุณเกิดยางแตกหรือยางระเบิดกะทันหัน ไม่ว่าอยู่ในช่วงความเร็วใด เหมือนเดิมก่อนอื่นต้องตั้งสติอย่าตกใจ และจะต้องถือพวงมาลัยไว้ให้มั่นคงต้องพยายามบังคับรถให้เข้าข้างทางให้ได้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้เบรกอย่างกะทันหันเมื่อรถวิ่งในความเร็วสูง เพราะจะทำให้รถที่วิ่งมานั้นหมุนเป็นวงกลม แต่ให้พยายามใช้เกียร์ต่ำเพื่อสร้างแรงหน่วงจากเครื่องยนต์ (engine brake)ในการช่วยชะลอความเร็วโดยการเปลี่ยนเกียร์ต่ำลง

กรณียางหลังระเบิด ด้านหลังรถจะส่าย แต่ถ้าถือพวงมาลัยไว้ให้มั่นคงและรักษาทิศทางให้ตรงก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ พยายามย้ำเบรกหลายๆ ครั้งติดกัน เพื่อที่น้ำหนักของรถจะได้ตกอยู่บนล้อข้างที่ยังใช้งานได้

กรณียางหน้าระเบิด พยายามจับพวงมาลัยให้มั่นคง ใช้เบรกให้เบาที่สุด มิฉะนั้นน้ำหนักจะทิ้งไปข้างหน้ามากขึ้น ถ้ารถแฉลบไปข้างใดต้องคอยขืนพวงมาลัยกลับมาให้ตรงทิศทางให้ได้ จนกว่ารถจะเข้าข้างทางได้เรียบร้อย ก่อนจะติดต่อขอความช่วยเหลือกับบริษัทที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ หรือ 191-เหตุด่วน , 1193-ตำรวจทางหลวง หรือใครมีประกันรถของซมโปะ ประกันภัยไว้ ติดต่อแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชม. 02-118-7400

 

6. ไฟหน้าขัดข้อง

ระบบไฟส่องสว่างถือว่ามีความสำคัญโดยเฉพาะการขับรถในช่วงกลางคืน ในกรณีที่ไฟหน้าขัดข้อง ซึ่งอาจเกิดจากแบตเตอรี่อ่อน หรือสายไฟขัดข้องทำให้ไฟหน้ารถยนต์ทำงานไม่เป็นปกติ ส่งผลให้การขับรถโดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือ ในสถาพถนนที่มีทัศนวิสัยไม่ดีเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ดังนั้นก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบว่าไฟหน้ารถยังทำงานได้เป็นปกติ ในขณะขับรถควรหมั่นสังเกตว่าไฟหน้ายังทำงานอยู่เป็นปกติหรือไม่ หากพบว่ามีการทำงานขัดข้องให้ผู้ขับรถลดความเร็วลงเพื่อมองหาจุดปลอดภัยเพื่อจอดเทียบและขอความช่วยเหลือจากหน่วยบริการฉุกเฉินกับบริษัทที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้

 

ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ฉุกเฉิน ที่ผู้ขับรถควรจะเรียนรู้เพื่อเตรียมตัวรับมือให้ถูกวิธีเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้การขับรถในทุกๆ เส้นทาง แล้วอย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจด้วยการคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ ซมโปะ ประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น

 

ประกันรถยนต์ ชั้น 1 เบี้ยเดียว Single Rate

ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ "MotorJoy 2+ Online" ที่คุ้มค่าสุดๆ

• ความคุ้มครองใกล้เคียงชั้น 1 แต่เบี้ยถูกมากกว่าครึ่งหนึ่ง
• ซื้อง่ายทางออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสภาพ
• คุ้มครองจัดเต็ม ทั้งรถหาย หรือไฟไหม้
• ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก
• รถเก่าก็ทำได้ สูงสุด 20 ปี
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ดูรายละเอียดได้ที่ https://welcome.sompo.co.th/motorjoy-2plus

หรือ ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ที่เหมาะกับรถกระบะคู่ใจของคุณ ประกันภัยรถกระบะ "ใจใจ" และ "ใจดี"

• หนึ่งเดียวที่คุ้มครอง รถ คน คอก แหนบ แบบจัดเต็ม!
• ชดเชยรายได้รายวัน สูงสุด 1,000 บาท/วัน
• ชดเชยค่าเดินทางไปซ่อมอู่ 400 บาท/วัน
• มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม.
• ผ่อนชำระเบี้ยได้สบาย 0% นาน 10 เดือน
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารกำหนด

ดูรายละเอียดได้ที่ https://welcome.sompo.co.th/pickup-jai-jai-and-pickup-jai-dee

 

สนใจปรึกษาเราได้ที่ 02-119-3000 "พกซมโปะไว้อุ่นใจกว่า"